ด้วยภารกิจต่างๆที่มากมายของดิฉันทำให้ต้องเก็บเรื่องราวดีๆไว้แล้ว. ค่อยเอามาเล่าให้ฟังย้อนหลังเสียนานเลย.    เมื่อวันที่. 30 พ.ย.2556 ที่ ร.ร.  สาธิตเกษตร บางเขน มีงานประจำปี ซึ่งปีนี้้เป็นปีแรกสำหรับครอบครัวเราที่ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมความกว้างใหญ่ของสาธิตเกษตร ที่บางเขน.  เพราะเอมิซึ่งเรียนอยู่ชั้นป.4 สาธิตเกษตร พหุภาษา. มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมการแสดงกลางแจ้ง(ซึ่งเป็นประเพณีกันไปแล้วว่าเด็กป.4จาก พหุภาษาทุกๆคน จะได้มีโอกาสไปเที่ยวบางเขนประมาณว่าน้องไปเยี่ยมพี่ ประมาณนั้น).  งานเริ่มตั้งแต่เช้า. คนเยอะมาก. หาที่จอดรถไม่มีเลย. คุณพ่อขับรถวนอยู่นานกว่าจะหาที่จอดได้(งานนี้เหมือนคุณพ่อได้กลับมาเยี่ยมมหาวิทยาลัยของตัวเองด้วย แต่ไม่ได้แวะไปตึกวิศวะฯ)ที่นี่.ร.ร.ใหญ่โตกว้างขวาง ตึกเยอะแยะเลย คนเยอะ อากาศร้อน ยังดีที่มีเต้นท์และพัดลมระบายอากาศร้อนไปได้บ้าง

เอมิไปถึงก่อนเวลาที่นัดหมายไว้กับอาจารย์ที่มาประสานงาน. เจอเพื่อนๆในระดับชั้นป.4 ของเอมิบ้างแต่ยังไม่มาก. เลยตัดสินใจที่จะเดินดูตามซุ้มกิจกรรมเล่นเกมต่างๆ มีทั้งเกมยิงปืนเลเซอร์. เกมปากระป๋อง เกมจับลูกบอลโฟมในตู้ลม. และอีกหลายๆเกม สรุปว่าเอมิกับนัตสึและดิฉันช่วยกันเล่นเกม. ได้ของรางวัลกระจุกกระจิกมา. เยอะแยะเลย.  เกมที่เล่นก็สนุกๆมากๆ. ผู้ปกครองที่มาเป็นคนช่วยดูแลซุ้มเกม น่ารักมากๆ. เลย แถมบางจุดก็มีพี่ทหารๆมาช่วยดูแลอำนวยความสะดวกด้วย(ไม่ได้มาเพราะว่ามีเรื่องกัน). ดูๆแล้วเกมกับของรางวัลเยอะมากๆเลยอ่ะ. สมาคมผู้ปกครองเค้าเข้มแข็ง ขยันกันมากๆเลยคนช่วยกันเยอะอีกด้วยอ่ะ

และเป็นเรื่องที่ต้องแอบมาสารภาพเอาไว้ตรงนี้ว่า. ตอนที่ไปเล่นเกมตรงซุ้มจับลูกบอลโฟม ดิฉันคิดว่าได้เจอพี่อ้อย( คุณแม่น้องกานต์) กับน้องกานต์ด้วย เพราะเคยเห็นลงรูปในเฟสแบบแว้บๆแต่คุ้นมากๆเลย.ตอนนั้นตัวเองน่ะ ตื่นเต้น เขินด้วยเพราะแอบปลื้มพี่อ้อยมานานแล้ว.  แต่ไม่กล้าทัก กลัวพี่อ้อยจะตกใจ เลยได้แต่แอบมอง. เผลอหันมามองเอมิที่กำลังจะเล่นเกม ปรากฎว่าน้องกานต์แลกของรางวัลแล้วเดินหายไปแล้วระยะเวลา แค่5 นาที ที่ได้เจอพี่อ้อยจริงๆครั้งแรก แค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ. (แต่พี่อ้อยไม่รู้หรอก)

พอเล่นเกมเสร็จก็เดินเที่ยวรอบๆบริเวณที่ใกล้ตึกเฉลิมพระเกียรติเพราะต้องรอพบอาจารย์. เลยแวะชิมอาหารตามซุ้มต่างๆซึ่งต้องบอกว่าร้านค้า เยอะมากๆ เลือกกินไม่ถูกเลย เพราะดูน่ากินไปหมดเลยหมดตังค์ไปหลายร้อยเลยค่ะ กินอิ่มพุงกาง  จากนั้นได้เวลาไปจุดนัดพบแล้วค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้า คราวนี้เพื่อนๆป.4 พหุภาษา มากันเพียบแล้ว 

ชุดการแสดงที่เอมิใส่เป็นเสื้อสีแดง. สกรีนตัวอักษร.  อ.  ไว้ที่ด้านหลังเสื้อ.  นุ่งโจงกระเบนสำเร็จรูปและใส่รองเท้าผ้าใบ มัดเก็บผมเรียบร้อย.  รอเวลาที่จะแสดงนานมากเพราะงานกลางแจ้งเริ่มบ่ายโมง.  และเริ่มแสดงจากนักเรียนชั้นมัธยมก่อนแล้วจึงจะไล่ระดับชั้นลงมาจนถึงชั้นประถม. ช่วงก่อนที่เอมิกับเพื่อนๆจะแสดง แดดร้อนมากๆ แต่พอ ป.4พหุภาษาได้เริ่มแสดง. ก็มีเมฆมาบังพอดีเลยทำให้ไม่ร้อนจนเกินไป โชคดีจริงๆเลย.  เอมิได้ยืนเต้นอยู่แถวหน้า ตรงกลาง.  หน้าบริเวณเต้นท์ที่ท่านอาจารย์ใหญ่นั่งอยู่พอดีเลย

เพลงที่อาจารย์เลือกมาให้เด็กแสดงมี4เพลง. เป็นเพลงที่สนุก. และเพราะ มากๆ   โดยเฉพาะเพลง. กอ เอ๋ย กอไก่.  ที่เด็กๆต้องลุกมากระโดดโชว์ตัวอักษรที่ด้านหลังเสื้อ เอมิได้กระโดดเป็นคนสุดท้ายซึ่งได้ ใส่เสื้อตัว. อ.  อ่าง.  เป็นการปิดท้ายเพลงเลย.   ช่วงที่รอดูการแสดงมาก่อนหน้านี้ ทำให้เห็นความแตกต่างและความเหมือนของบางเขนกับพหุภาษาหลายๆอย่าง

ความแตกต่างเรื่องความโตของเด็กๆ. ของที่บางเขนส่วนใหญ่ เด็กๆตัวโต ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกันมากแม้กระทั่งเด็กประถม.  เทียบแล้ว. ป.4พหุภาษา ตัวกระเปี๊ยกกันมากๆเลย ส่วนเรื่องจำนวนนักเรียน.        นักเรียนในแต่ละระดับชั้นของที่นี่เยอะมากเลย. แสดงกันที.  กว่าจะจบในแต่ละระดับนานพอสมควร

ชุดการแสดงของที่บางเขนยังอยู่ในเรื่องของไทยๆ. และอาเซียน แต่พหุภาษามีคอนเซ็ปใหม่. จะเน้นความเป็นนานาชาติ และความเป็นสากลในระดับโลกมากกว่า

ในส่วนการแสดงที่ต้องมีอุปกรณ์ของบางเขนยังต้องมีอาจารย์คอยช่วยจัดให้ตามจุดต่างๆ.  แต่ที่พหุภาษาจะเน้นตัวเด็กรับผิดชอบอุปกรณ์เอง

ส่วนเต้นท์รอบๆที่จัดการแสดงก็ไม่ค่อยเพียงพอเพราะคนเยอะมากๆบริเวณนั้นจึงคับแคบ.  และที่เห็นชัดคือ ผู้ปกครองที่บางเขนส่วนใหญ่นั่งดูนั่งชมกันแบบเก็บอาการไม่มีกรี้ดกร้าดหรือส่งเสียงใดๆ มีปรบมือบ้างเป็นครั้งๆไป แล้วแต่. อาจารย์ที่เป็นพิธีกรจะพูดสนับสนุนซึ่งแตกต่างจากพหุภาษามากๆเพราะที่พหุภาษาผู้ปกครองมาเชียร์เด็กๆกันช่วยปรบมือ ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ. โบกไม้โบกมือให้ลูกๆ ให้เด็กๆ.   ไม่ใช่แค่นั่งดูอย่างเดียว. ร้องเพลงไหนได้ก็ช่วยกันร้อง

ส่วนบริเวณจัดงานของเราก็กว้างขวางมากๆสามารถกระจายดูได้ทุกที่รอบๆแถมยังมีอาคารที่สามารถดูจากมุมสูงได้อีกด้วย(อิอิอิ).  หากว่าด้านไหนมีแดดหรือร้อนสามารถหลบเข้าด้านร่มๆได้อีกด้วย.    พหุภาษามีต้นไม้เยอะ ลมพัดเย็นสบายตลอด

ส่วนความเหมือนคือรูปแบบของอาคารและเสาธงที่หน้าอาคาร ลักษณะการก่อสร้างคล้ายๆกัน.   และความเป็นเอกลักษณ์ของสาธิตเกษตรคือความเป็นธรรมชาติของเด็กๆ.  ภาพที่เห็นที่บางเขน. คือ กลางสนามฟุตบอล มีเด็กวิ่งเล่น. ปั่นจักรยาน. เตะฟุตบอล.  นั่งเล่นของเล่น.   พูดคุยกันเสียงดังๆ.  ภาพความเป็นเด็กคล้ายๆกันนะ

กลับมาที่เรื่องของเอมิ เมื่อจบการแสดง ของตัวเองก็ได้เวลาที่ต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน บางคนอยู่พัทยา. ศรีราชา. บางบ่อ. ก็ต้องรีบกลับก่อนรถจะติดมาก. ส่วนเอมิกับคุณแม่ขอแวะเดินเที่ยวสวนจักตุจักรก่อนเพราะอยากเดินดูของ. และเอมิก็ยังไม่หมดแรง(พลังเยอะจริงๆเลยนะสาว.   อ.   เอมิ.  ลูกอิชั้นเนี่ย)

อีกสามปีคงจะมีโอกาสมาเที่ยวงานประจำปีที่บางเขนอีกรอบเพราะถึงตอนนั้น นัตสึก็จะเลื่อนไปอยู่ป.4 เหมือนพี่เอมิ เหมือนกัน....