เมื่อวันพุธที่แล้ว ตอนช่วงเย็นได้รับโทรศัพท์จากคุณปุ๊กเพื่อนผู้ปกครองแก๊งค์เดียวกันโทรมาแจ้งว่าเอมิมีอุบัติเหตุ ตกใจมาก  ว่าจะเป็นเรื่องอะไรเพราะถ้าถึงขั้นอาจารย์ต้องขอคุยด้วยคงจะไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ.       แต่ต้องตั้งสติก่อน อาจารย์ห้องพยาบาลเล่าว่า ตอนเย็นหลังเลิกเรียน เอมิไปเล่นที่สนามเด็กเล่นแล้วฟันด้านหน้าไปกระแทกกับเก้าอี้นักเรียนแบบไม้ ปากแตกมีเลือดไหลออกมากตรงฟันหน้า2ซี่ กับรอยต่อของฟันหน้ากับเหงือก ฟันไม่หลุด แต่มีโยก ไม่แน่ใจว่ารากฟันจะหักหรือร้าว. หรือเปล่าต้องพาไปหาหมอให้เช็คซ้ำ. นึกในใจว่าเป็นฟันหน้า2 ซี่ที่เพิ่งจะขึ้นไม่ถึงปีเลย.        สงสัยถ้าร้ายแรงมากคงจะได้ฟันหลอกันล่ะเนี่ย หมดสวยกันพอดีเลย ท่าทางน่าจะเจ็บมากอยู่เหมือนกัน เพราะคุณปุ๊กบอกว่า ที่ฟันหน้าทั้ง2ซี่ยังมีคราบสีดำของเก้าอี้ครูดติดกับฟันเช็ดไม่ออกเลย. อาจารย์ก็ไม่กล้าเช็ดด้วยกลัวว่าจะกระเทือนฟันเลยฝากถามเอมิว่าเจ็บมากไหม.      คุณปุ๊กบอกว่าสงสัยไม่เจ็บเพราะยังยิ้มยังหัวเราะได้ ไม่เห็นร้องไห้เลย. ขนาดเลือดออกกลบปากก็ยังไม่ร้องไห้ เราเลยคิดในใจว่า ถ้าอย่างงั้นน่าจะไม่เป็นไรมาก ค่อยใจชื้นขึ้นมาบ้าง.     ถามสาเหตุรู้เพียงแค่ว่าเล่นกับเพื่อนแล้วตกลงมาจากเครื่องเล่นแบบ กระโดดจับห่วงแล้วโรยตัวลง แต่บังเอิญว่าตกไปกระแทกกับเก้าอี้ซะก่อนก็เลยปากแตกเหงือกเลือดออก

     รอจนลูกกลับมาถึงบ้านถามอาการพร้อมกับดูบาดแผล  มีปากแตก เลือดห้อบริเวณเหงือกด้านบนส่วนหน้า ฟันมีรอยสีดำติดครูดเป็นทางยาวเล็กน้อย แต่หลายจุด เช็ดไม่ออกจริงๆด้วย ถามลูกว่าเจ็บไหม ต้องไปหาหมอดีไหม เอมิบอกเจ็บสบฟันไม่ได้ เลยชักจะไม่ดีแฮะ ไหงบอกอาจารย์ว่าไม่เจ็บไม่เป็นไร. สงสัยจะเริ่มปวดจริงแล้ว.    พาลูกไปหาหมอฟันที่รักษาประจำ. เอ็กซเรย์ฟันแล้วรากฟันไม่มีรอยร้าวหรือหัก โชคดีที่ฟันยังฟอร์มตัวอยู่. มีเส้นเลือดตรงที่ไปเลี้ยงเหงือกขาดนิดหน่อยมีแผลฉีกตรงบริเวณเหงือกต้องกินยาปฏิชีวนะกับยาแก้ปวดอย่างแรง และเหงือกที่บวมอยู่นี้คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงมันจะปวดและบวมกว่าวันนี้ได้อีก3-4วัน แล้วจะค่อยๆดีขึ้น(. ไม่รู้ว่าข่าวดีหรือข่าวร้าย). และข้อสำคัญที่ต้องระวังคือ หากว่ามันเลวร้ายจริงๆ จะมีโอกาส30% ที่จะเกิดรากฟันตายได้ แต่อาการจะปรากฎให้เห็นในระยะ 6เดือนถึง.  1 ปี เพราะ รากฟันจะตายจากการที่เลือดไม่ไปเลี้ยงและต้องสังเกตอาการว่ามีปวดบวมหนองขึ้นบริเวณฟันที่ได้รับการกระทบกระเทือนหรือเปล่า.  
   โอ้.  ตายจริงนี่มันยังไม่จบเรื่อง ยังต้องมีตามมาดูฟันกันอีกเป็นระยะๆ โธ่เอ้ย เอมิลูกลิงน้อยของคุณแม่. แต่ไหงทุกทีก็เล่นได้ไม่เป็นอะไรนี่นา เลยถามลูกว่ามันเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ได้อย่างไร. ถามไปถามมาเลยได้คำตอบว่า. ก็เล่นโรยตัวสไลด์กันอยู่กับเพื่อนๆ.พอถึงคราวที่เอมิต้องกระโดดจับห่วงเพื่อที่จะสปริงตัวเลื่อนมาอีกด้านหนึ่ง เพื่อนที่ต่อคิวอยู่ด้านหลังเกิดเอามือมาผลักหลังอย่างแรง. ในขณะที่เอมิยังไม่ได้ตั้งหลักจะจับห่วงเพื่อสไลด์ให้แน่น.  ก็เลยตกลงมาหน้ากระแทกกับเก้าอี้ที่ ยกมาตั้งสำหรับรองรับเวลาสไลด์ข้ามมาอีกฝั่งหนึ่งเข้าอย่างจังเลย. คุณแม่ก็เลยถามว่า ใครเป็นคนผลัก แล้วเพื่อนทำอย่างไร. เอมิบอกว่า เพื่อนคนนั้นยืนหัวเราะ แบบคิดว่าขำดี แล้วก็เดินหนีหายไปไหนก็ไม่รู้ แต่ได้น้องแน็ทเป็นเพื่อนห้องเดียวกันพาไปห้องพยาบาลแทน.            ตอนแรกถามชื่อเพื่อนที่ผลักก็ไม่ยอมบอก ต้องบอกว่าเราต้องเตือนเค้าว่าแบบนี้มันอันตราย และสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น คิดดูซิค่ะ เราสอนลูกให้เป็นเด็กดีไม่แกล้งเพื่อน ให้ช่วยเหลือเพื่อน แต่ทำไมเด็กคนนั้นถึงยืนขำ แล้วไม่ขอโทษไม่พาไปหาอาจารย์ที่ห้องพยาบาลด้วย  เอมิบอกว่าเป็นเพื่อนคนละห้องไม่ได้สนิทกันรู้จักแต่ชื่อเล่น.  ผ่านไปสองวันเอมิถึงได้มาบอกชื่อจริง ลูกก็คงไม่อยากให้มีเรื่อง.  เราก็ไม่อยากมีเรื่อง. แต่คุยกับผปค. ท่านอื่นคิดว่าต้องบอกอาจารย์จะได้แก้ไขปัญหาเรื่องอุบัติเหตุในโรงเรียนก็เลยไปเล่าให้อาจารย์ประจำชั้นฟังเมื่อวาน ไม่ได้มีเจตนาจะไปตำหนิเด็กคนนั้น. แต่ต้องการความร่วมมือจากผปค.  ที่ร.ร.  สาธิตเกษตร พหุภาษา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยกันดูแล และคอยเตือนให้เล่นอย่างระมัดระวัง. เพราะของเล่นที่สนามเด็กเล่นนั้นมันทำจากไม้และเหล็กเป็นส่วนมาก และลักษณะเครื่องเล่นแต่ละชนิดเป็นแบบฝึกออกกำลัง ต้องมีกระโดด. โหนตัว กระโดดจับเกาะ ปีนป่าย ทรงตัวรักษาสมดุล. บางเครื่องมีการเหวี่ยงอย่างแรง บางอันต้องปีนข้ามฝั่ง หรือกระโดดลงจากที่สูง ซึ่งบางอย่างยังไม่เหมาะกับเด็กที่ความสูงหรือความแข็งแรงยังไม่ถึงขั้น ก็ต้องระวังจะบาดเจ็บด้วย. ขอความร่วมมือช่วยเหลือ ช่วยดูและบอกให้เล่นอย่างระมัดระวัง. อย่าผลัก หรือแกล้งเพื่อน การเล่นต้องใจเย็นต่อคิว เด็กๆ ทุกคนอยากเล่นเหมือนกันหมด. ต้องเล่นอย่างมีน้ำใจและดูแลเพื่อนด้วยกัน
        ตอนนี้ผ่านไปครบหนึ่งอาทิตย์.  รอยปากแตกยังเห็นอยู่ รอยเหงือกที่ม่วงช้ำเริ่มเป็นสีชมพู คราบสีดำของเก้าอี้ยังติดที่ฟันหน้าอยู่อีกหนึ่งจุด หวังว่ามันจะหลุดออกไปในไม่ช้า. อาหารของแข็งยังเคี้ยวไม่ไหว แต่ถ้าอยากกินมากๆ ก็ต้องเคี้ยวด้วยฟันข้างๆ กัดไม่ได้. ส่วนเพื่อนที่ก่อเหตุก็คงจะยังไม่รู้ตัว ว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไปบ้าง เอมิบอกให้อภัยเพื่อนรู้ว่าเพื่อนคงจะไม่ได้ตั้งใจ.  ส่วนน้องสาวของดิฉัน บอกว่าใจเย็นอยู่ได้อย่างไร เราเลี้ยงลูกมาแล้วโดนเพื่อนทำอย่างงี้ต้องจัดการ ดิฉันก็เลยบอกว่า ช่างมันเถอะ แค่มาบอกช่วยเตือนๆให้มีน้ำใจต่อกัน ช่วยดูแลเด็กกันบ้าง เพราะอาจารย์ที่เป็นเวรสนามเด็กเล่นก็มีแค่คนเดียวจะไปดูเด็กๆทันได้อย่างไร เพราะเวลาเลิกเรียนเด็กก็อยากรีบเล่น ก่อนที่ผปค.  จะมารับกลับบ้านกันไป สุดท้ายหวังว่า. คราวนี้เอมิจะรู้จักระมัดระวังเพื่อนๆ ที่มาต่อคิวกัน. และรู้จักบอกเพื่อนว่าอย่าผลักฉันนะฉันตัวเล็กนิดเดียว แค่ชนก็กระเด็นแล้ว....
ป.ล.  วันนี้ต้องไปหาหมอฟันอีกแล้ว จะไปทันไหมเนี่ยตอน ทุ่มหนึ่ง (. ขอให้การบ้านอย่าเยอะเล้ย. เจ้าประคู้ณ)