ป้ายโฆษณา



ป้ายโฆษณา

ก่อนซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์มือสอง ตรวจ S/N ที่แจ้งหาย/ถูกขโมยที่นี่!! BlockSerial.Com
 

Blog Me!

เปิดกว้างสำหรับเพื่อนสมาชิกที่ชอบการเขียน การจัดบันทึก การเขียน blog ก็คล้ายกับการที่เรามีสมุดกันคนละเล่มในนี้ อยากเขียนอะไรก็เขียน จะแบ่งให้ผู้สนใจและเพื่อน ๆ ได้อ่านแล้วมีส่วนร่วมผ่านทาง comment ก็ได้ หรือจะอยากเก็บไว้เป็นการส่วนตัวก็ได้ การเขียน blog จะช่วยทำให้เรารู้จักการเรียบเรียงเรื่องราวที่ต้องการจดบันทึก การนำเสนอ และได้แบ่งปันความรู้ นานาทัศนะต่อกัน ที่สำคัญ! ยังเป็นการบันทึกไว้ในโลกอินเตอร์เน็ตที่ใคร ๆ ก็มีโอกาสได้เห็น blog ของคุณ!

โพสต์โดย amijung
amijung
amijung ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
เมื่อ เสาร์, 09 มีนาคม 2013
ใน บันทึกลูกรัก

เรื่องคุยของลูกตอนที่ 28 เอมิจังจบ พหุภาษา ป.3 แล้วจ้า 3. ปีผ่านไปช่างไวเหมือนโกหก

เมื่อวานวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2556         นับว่าเป็นวันที่มันมากของทั้งคุณแม่และคุณลูก  เพราะเป็นวันสุดท้ายของการเรียนชั้นป.3 ของเอมิจัง.    ช่วงสอบที่ต้องอาศัยความอึด และทรหดของทั้งบรรดาคุณแม่และคุณลูกหลายๆคน   (บ่นเจ็บคอ ไม่สบายกันหลายคน)  เมื่อเหล่าบรรดาคุณแม่พร้อมใจกันมารับลูกๆช่วงเย็น. ในกลุ่มของคุณแม่นั้น การตั้งวงเม้าท์กันนั้นเป็นเรื่องที่ผ่อนคลายมากๆ เพราะไม่ได้คุยเรื่องคะแนนสอบหรือการเรียนอะไรเล้ย.          เม้าท์กันแต่เรื่องเฟอร์บี้ ตอนนี้ต้องยอมรับว่ากระแสแรงจริงๆ (แต่บ้านนี้ก็ไม่นิยมซื้อให้ลูกเล่นเหมือนกัน. แต่ถ้ามีใครให้ก็ไม่ปฏิเสธอ่ะ รออยู่  ) ตอนนี้เด็กๆกลายเป็นเฟอร์บี้กันไปหมดแล้วอ่ะ ดูตื่นตาตื่นใจเวลาได้เห็นของจริงที่เพื่อนๆเอามาให้ดูที่โรงเรียน            นี่ถ้าตั้งโปรแกรมให้เฟอร์บี้สอนหรือให้ความรู้เด็กๆได้ก็คงจะดีไม่น้อย.      เด็ก ๆอาจจะได้ประโยชน์มากกว่านี้.  นั่งคุยเรื่องเฟอร์บี้พร้อมมุขตลกที่เหล่าบรรดาคุณแม่ต่างพกติดตัวกันมาเพียบ( เหมือนรอเตรียมพร้อมจะมาปล่อยมุขกันวันนี้).            นั่งขำนั่งเม้าท์จากบ่ายสามโมงไปจนถึงหกโมงครึ่ง ถึงได้เวลาสลายตัวกลับเป็นโต๊ะสุดท้ายของโรงเรียน ช่วงค่ำโพล้เพล้บรรยากาศเหมือนตอนตี5.ช่วงเช้าเลย

      ได้กลับมานั่งทบทวนดูว่าตลอดระยะเวลาที่เอมิจังใช้ชีวิตการเรียนในรั้วสาธิตเกษตร พหุภาษา มาครบ 3 ปีแล้ว มีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน         ภาพแต่ละภาพในช่วงชีวิตลูกมันละเอียดละออเหมือนหนังสือเล่มใหญ่ที่ค่อยๆสร้างและผูกพันตัวละครในชีวิตไว้มากมาย  ได้พบเจอมิตรภาพดีๆ ได้รู้จักอาจารย์ที่เป็นต้นแบบในแต่ละวิชา และมีความเป็นอาจารย์อยู่อย่างเต็มเปี่ยม. ความทรงจำที่ดีๆ สนุกๆ ตื่นเต้น ท้าทาย ทั้งสุขทั้งเศร้าทั้งสมหวังทั้งไม่สมหวัง ล้วนแต่ทำให้เอมิจังเติบโตมาอย่างเข้มแข็ง(แม้ว่าจะผ่านมาพร้อมกับน้ำตาที่เสียใจในบางเรื่องบางครั้งก็ตามทีตามประสาความทุกข์ของเด็กๆที่ต้องผ่านแต่ละบททดสอบในชีวิตไปให้ได้)   แต่คุณแม่ก็ยังเชื่อว่าลูกมีความสุขกับการเรียนและพร้อมที่จะก้าวต่อไปในช่วงชั้นที่2 ของการเรียนป.4-6          สำหรับที่นี่ มีหลายอย่างที่ถูกใจและไม่ถูกใจ    แต่ในความไม่ถูกใจนั้น มองว่าต้องอาศัยการรอคอยการเปลี่ยนแปลงที่จะค่อยๆเกิดขึ้น        ที่นี่เป็นพหุภาษาก็จริง แต่ในด้านของการเรียนการสอนทางภาษาอังกฤษยังถือว่าอ่อนมากถ้าเทียบกับในเครือของคาทอลิกอย่างเห็นได้ชัด.        โอกาสที่จะได้ใช้หรือฝึกพูดภาษาอังกฤษนอกชั่วโมงเรียนแทบจะไม่มีเลย          หรือแม้แต่ในชั่วโมงเรียนก็แทบจะไม่ค่อยได้พูดเพราะลูกบอกว่าอยากคุยอยากตอบคำถามกับteacher. แต่teacher.     ไม่เรียกให้ตอบสักที. เด็กๆแย่งกันยกมืออยากตอบ            ส่วนประโยคไหนที่ฟังไม่รู้เรื่องแปลไม่ออกก็จะมีเพื่อนๆที่่เป็นลูกครึ่งแปลให้ฟังกันในห้อง.       จากการประเมินแล้วสมัยที่เอมิอยู่อนุบาลแล้วเรียนแบบep.       มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษบ่อยมาก แต่พอโตขึ้นกลับไม่ได้ใช้และดูห่างไกลเหลือเกิน.      เพราะภาษาอังกฤษไม่มีการบ้าน        ไม่มีกิจกรรมที่ต้องฝึกหรือสร้างโอกาสให้เด็กได้กลับมาทบทวน    อีกทั้งการบ้านและการสอบในวิชาอื่นๆ ต่างก็รุมเร้าให้ต้องกระตือรือร้นในเรื่องอื่นอยู่ในทุกๆวัน. การให้น้ำหนักความสำคัญเกี่ยวกับภาษาอังกฤษก็ดูจะไม่ค่อยมีเท่าที่ได้สังเกตดู       นับว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไขเพราะในปัจจุบันการสื่อสารด้วยภาษาต่างประเทศนับว่าเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก.      มีผู้ปกครองบางท่านบอกว่าที่นี่ดีหมด วิชาการแข็ง แต่ลูกพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ทั้งๆที่เคยพูดได้ เลยต้องพิจารณาย้ายโรงเรียน. ซึ่งสำหรับผปค.บางท่าน คุณแม่ก็เห็นด้วยถ้าจะย้ายเพราะภาษาอังกฤษจะพัฒนาช้าไม่สู้โรงเรียนแนวคาทอลิกซึ่งเน้นด้านภาษาอยู่แล้ว เพราะตัวคุณแม่เองก็คิดเช่นนั้น. แต่เมื่อมาพิจารณาดูทางฝ่ายคาทอลิกที่เน้นภาษาเหลือเกินก็ต้องไปเสริมวิชาอื่นๆ เรียนพิเศษเพิ่มเติมอีกเยอะเลยเช่นกัน           คิดแล้วไม่ว่าจะเรียนที่ไหนก็คงจะไม่สามารถให้พร้อมดีไปทุกอย่างได้จึงต้องเลือกพิจารณาเอาเองตามที่เหมาะสม และเข้ากับชีวิตครอบครัวของตัวเองมากที่สุด. ทำตามแผนและเป้าหมายที่คิดไว้ก็น่าจะดีที่สุด


              กับอีกกระแสของการย้ายออกจากโรงเรียนนี้ (อาจจะมีทุกปีอยู่แล้วที่ลาออกด้วยสาเหตุนี้)ซึ่งผปค.ต้องใช้วิจารณญานในการไตร่ตรองความสมเหตุสมผลให้ดีๆ นั่นก็คืออาจจะมีผปค.บางท่านอาจจะไม่มีความสุขกับตัวเลขเกรดคะแนนเวลาประเมินออกมาปลายปีว่า ทำไมถึงไม่ได้ตามที่คาดหวังซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ปกครองทุกท่านที่สนใจเรื่องการเรียนของลูกๆ. ผปค.บางท่านบอกว่าเวลาสอบได้คะแนนดีมาก แต่ทำไมเวลาประเมินออกมาแล้วไม่ได้เกรด4  ความไม่เข้าใจ. ไม่พอใจ และไม่สะดวกใจที่จะปล่อยให้เกรดของลูกในสมุดพกไม่สวยงามเกินยอมรับได้จึงขอถอนตัวจากไปที่อื่น.           . สำหรับเรื่องการประเมินเกรด หากว่า ผปค.จะย้อนนึกกลับไปเมื่อวันที่เราได้พบกับอาจารย์ประจำชั้นในวันศิษย์-ลูกได้.  เราก็จะพบว่าเกรดที่กลั่นกรองออกมานั้นไม่ได้มาอย่างง่ายๆ ทั้งต้องความประพฤติดี ตั้งใจเรียนส่งงานครบทันตามกำหนด มีความรู้ความสามารถ มีความคิดสร้างสรรค์รู้จักการแก้ไขปัญหา ความรับผิดชอบต่องานทั้งกลุ่มทั้งเดี่ยว การช่วยเหลือกันความร่วมมือความใส่ใจ. ลายมือ การกล้าแสดงออก การพูดคุยแสดงความคิดเห็น ความสามารถส่วนตัวและการเข้าใจในบทเรียน. การตอบคำถาม ความสนใจในชั่วโมงเรียน. การตรงต่อเวลา บุคลิกลักษณะที่เหมาะสม และอื่นๆอีก ร้อยแปดพันประการที่เอามาคำนวณออกมาเป็นเกรดให้เรา เหล่าคุณพ่อคุณแม่ได้มองเห็นและวิเคราะห์มองลูกตัวเองได้ว่าเป็นบุคคลแบบใด. เพราะฉะนั้นแค่ผลคะแนนสอบอย่างเดียวไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าลูกเราเก่งและเลิศ เพราะถ้าจะดูหลักการของโรงเรียนนี้คือ การสร้างคนให้เป็นคน.   ตามคำขวัญของโรงเรียน( รอบรู้. สู้ชีวิต. จิตมั่นคง ดำรงคุณธรรม)และทั้งปรัชญากับวิสัยทัศน์ของโรงเรียนก็เน้นย้ำเรื่องของการพัฒนาความเป็นคน.          เพราะถ้าถามจริงๆเรื่องของความเป๊ะในระเบียบ วินัย มารยาท ในเรื่องการมาโรงเรียนเช่น ขาด ลา มา สาย การแต่งกายของนักเรียน คุณแม่ว่าค่อนข้างจะหย่อนยานและอะลุ่มอะล่วยมาก ไม่เหมือนที่สาธิตจุฬา มศว.  หรือที่อื่นๆ เพราะความที่โรงเรียนนี้กว้างมากๆ อยู่ไกลมาก. การเดินทางมีหลายรูปแบบอย่างเช่น ผปค. ขับรถมาส่งเอง บางคนมากับรถตู้รับจ้าง   มากับรถมนตรีจากที่บางเขน. ทำให้มีโอกาสมาสายได้.(เพราะที่นี่รถเข้าออกช่วงเช้าเยอะมากๆ ถ้ามาช้า
หลัง7.00น.)เวลาของการมาถึงโรงเรียนจึงเป็นเครื่องวัดอย่างหนึ่งว่าเด็กมีความพร้อมที่จะเข้าเรียนหรือไหม เพราะถ้าหากว่าเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบก็จะอยากมาเร็วๆไม่อยากมาสาย.  ผปค.ก็ต้องให้ความร่วมมือรีบพาเด็กเข้าชั้นก่อน7.30 น.         ลูกๆจะได้มีเวลาทำกิจวัตรตอนเช้า เช็ดโต๊ะ จดการบ้านทันส่งอาจารย์ตอนเที่ยง.  หรือเด็กบางคนที่มากับรถตู้ที่มาถึงโรงเรียนช้าแต่ไม่อยากสายก็จะกระวีกระวาดรีบไปให้ถึงห้องเรียนให้เร็วที่สุดแต่ในทางกลับกัน เด็กที่ไม่มีความรับผิดชอบก็จะมาสายโดยไม่สนใจใคร.         ถึงมากับรถตู้หรือรถมนตรีมาทันเคารพธงชาติแต่ก็เดินเรื่อยๆเอื่อยๆเดินคุยกันไปเหมือนไม่ใส่ใจอะไร ใครจะรีบจะเร่งหรือตัวเองก็รู้อยู่ว่ามาสายมาช้าแต่ก็ยังเฉยๆ.  อันนี้แค่ยกตัวอย่างเพียงแค่เรื่องการมาโรงเรียนให้ทันเวลาเท่านั้นแค่เรื่องเดียว.         เห็นอย่างนี้แล้วถ้าคุณแม่เป็นอาจารย์ก็ไม่รู้ว่าจะให้เกรดตามคะแนนสอบอย่างเดียวจะเหมาะสมหรือเปล่าน้า เพราะเด็กอีกคนพร้อมเรียนน่ารัก รู้จักปฏิบัติเข้ากับกติกาสังคมถึงจะสอบไม่ได้คะแนนเต็มแต่ไม่ต่ำ. กับอีกคนสอบได้คะแนนดีมากแต่อย่างอื่นสร้างความปวดหัวและปั่นป่วนเหลือเกิน ลองคิดพิจารณาดูเอาเองเถอะค่ะว่าอะไรสมควรที่จะให้หรือไม่ให้เกรดตามคะแนนสอบอย่างเดียว
คุณแม่มองว่าเด็กที่นี่. ไม่ว่าจะระดับชั้นประถมต้น. ประถมปลาย. มัธยมต้น. หรือมัธยมปลาย. มีทั้งเด็กที่เรียบร้อย และพร้อมที่จะไม่เรียบร้อยอยู่ประมาณ70/30
ทำไมถึงคิดเช่นนั้น เพราะเท่าที่สังเกตดู แต่ละครอบครัวมีวิธีการเลี้ยงดูลูกที่หลากหลายมาก เด็กบางคนอยู่กับครอบครัวที่ติดดินอันนี้ยังเรียบร้อยน่ารัก บางคนหรูเลิศพร้อมจ่ายก็มีฟุ้งเฟ้อได้. บางคนส่งลูกมาอยู่หอพักข้างนอกตามลำพังไม่ได้มาดูแล.หรือซื้อบ้านให้อยู่แต่ไม่มีเวลามาดูแล.   บางคนมีแต่คนรับใช้มาคอยดูแล และอื่นๆอีกสารพัด. หากว่าเด็กๆในระดับประถมต้นได้ถูกขัดเกลามาอย่างดีให้รู้จักความมีระเบียบวินัย รู้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี และคิดเป็น เด็กๆเหล่านี้ เมื่อโตขึ้นเป็นพี่มัธยมก็จะเป็นพี่ตัวอย่างที่ดีๆ แต่สำหรับเด็กที่ขนาดเป็นเด็กประถมตอนนี้แต่ความประพฤติและบุคลิกลักษณะยังอยู่ขั้นรับไม่ไหว ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ายิ่งโตขึ้นภายหน้าจะเป็นเด็กมัธยมแบบใด



ทุกโรงเรียนมีทั้งข้อดีและข้อเสียค่ะ. สำหรับคุณผปค.ที่ดูแลลูกอย่างใกล้ชิดรับรองว่าลูกของท่านจะเติบโตพร้อมความเก่งกล้าทั้งทางวิชาการและสังคม. แต่หากท่านไม่พร้อมที่จะดูแลแบบใกล้ชิดคุณแม่ก็มองว่ามีโอกาสที่จะเป็นเด็กอีก30%. ที่เหล่าอาจารย์จะต้องคอยมาตามดูแลเพิ่มซึ่งหากว่าผลลัพธ์มันอาจจะออกมาไม่ค่อยดีนักแต่อย่าลืมว่า คุณผปค.เป็นคนกำหนดและสร้างมันขึ้นมาเอง ก็ต้องยอมรับตามนั้นกันไป
การย้ายออกของเพื่อนๆร่วมระดับชั้นป.3ของเอมิจัง. อาจจะไม่ได้มีจำนวนมากมายจนน่าตกใจ และดิฉันก็เคารพในการตัดสินใจที่ท่านผปค.ได้คิดไว้แล้ว. เพราะทุกอย่างต้องมีทางเดินของมัน ไปตามความฝันแล้วทำมันให้เต็มที่ค่ะ โชคดีทุกๆเลยนะค่ะ(. ปล.   เอมิจังกลับมาเล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนบางคนลาออกไปนานแล้ว แต่เมื่อวานมีปาร์ตี้ปิดเทอมก็ยังมีเพื่อนที่ลาออกมาร่วมปาร์ตี้เลย สงสัยว่าจะคิดถึงเพื่อนๆที่นี่อยู่ใช่ไหมล่ะจ๊ะ)
โหวตให้คะแนนบทความนี้
คำค้นหา: ไม่ระบุคำค้นหา
amijung (657 คะแนนที่ได้รับ)
amijung ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
เหรียญรางวัล:

ความคิดเห็น

กรุณา เข้าระบบ หากต้องการแสดงความคิดเห็นของคุณ