ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองทุกท่านที่มีความรักและสนใจเรื่องราวของลูก ๆ คุณแม่เองก็มีลูกสาวที่น่ารัก(รึเปล่าน้า...) อยู่ 2 คน  คนโตชื่อ  เอมิจัง ตอนนี้ก็กำลังจะขึ้นป. 3 (อายุ 7. 5 ปี)  ส่วนอีกคนชื่อ น้องยูริ ค่ะ ก็กำลังจะขึ้น อ. 3(  อายุจะ 5 ขวบแล้ว)  กำลังจะลองสอบของสาธิต ม.ศ.ว.  คนโตตอนนี้เรียนอยู่ที่ ร.ร.สาธิตเกษตร พหุภาษา   เค้าชอบกิจกรรมมากทั้งทางด้านวิชาการ ศิลปะ และกีฬา  การเรียนก็พอไปได้ ส่วนศิลปะเป็นวิชาเดียวที่ี่ทำคะแนนได้ดีมากมาตลอดตั้งแต่ป.1 (เคยได้รางวัลเกียรติบัตรที่ร.ร. มาให้ชื่นใจเหมือนกัน)  ส่วนกีฬาที่ชอบมากที่สุดและเรียกได้ว่าชอบแข่งมากที่สุดคิดว่าเป็น กีฬาวิ่ง (เคยเป็นตัวแทนนักเรียนสมัยอยู่ที่ร.ร. เจริญพงศ์ ไปแข่งกีฬาคาทอลิก ได้เหรียญทองแดงมา) จากนั้น  ทุกครั้งที่มีการแข่งขันไม่ว่าวิ่งเพื่อเอาคะแนนหรือจะวิ่งเพื่อเอาเหรียญ  ลูกคนนี้ก็พร้อมจะทุ่มเทให้  พอได้มาเรียนที่สาธิตเกษตร พหุภาษา ความกล้าที่จะว่ายน้ำก็กลับมาอีกครั้ง ( เคยจะจมน้ำตอนเด็กเลยฝังใจกลัวมาก ถึงมากที่สุด ) ตอนป. 1 ที่ลูกเริ่มเรียนว่ายน้ำ เคยกังวลมาก ต้องฝากลูกไว้กับอาจารย์ให้ช่วยดูด้วย ไม่น่าเชื่อ อาการกลัวน้ำแบบไม่ยอมลงน้ำเลยกลายมาเป็นชอบว่ายน้ำได้ซะจนคุณแม่เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ  แถมเวลามีสอบว่ายน้ำลูกก็กลับมาอวดว่าทำสอบได้คะแนนดี  ว่ายน้ำนำกลุ่มเพื่อน ๆเวลาลงสระเก็บคะแนน  (ในกลุ่มเด็กหญิง) งานนี้ต้องขอบคุณอาจารย์สอนวิชาพละ เลยนะคะเนี่ย  เอมิจังกลายเป็นเด็กที่ไม่กลัวน้ำอีกน้ำอีกแล้ว  ทำให้ความกังวลใจเกี่ยวกับลูกหายไปเป็นปลิดทิ้ง  เพราะก็รู้ดีว่าการว่ายน้ำเป็นนั้นสำคัญมากขนาดไหน อย่างน้อยก็ช่วยเหลือตัวเองหรือผู้อื่นได้ไม่ต้องเป็นภาระใคร   ซัมเมอร์นี้เลยจะให้ลงเรียนว่ายน้ำให้สนุกกันไปเลย  เรื่องการเรียน  ด้วยความที่เป็นเด็กชอบทดลองอยากรู้อยากเห็น แม้ว่าจะยังเชื่อมโยงเหตุผลไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยจุดประกายให้รู้จักคิด หาทดลอง และวิเคราะห์ไปเรื่อย ๆ น้องไม่ได้เก่งมากมาย แต่ก็เรียนรู้ได้เรื่อย ๆ คุณแม่มองว่าน้องยังต้องการการพัฒนาต่อไปอีกอย่างถูกทาง  ถูกจังหวะ  (มันทำให้คุณแม่รู้สึกดีใจและขอบคุณมากที่ได้มารู้จักกับเว็บของกานต์  บ้านแห่งนี้มีทุกอย่างที่พร้อมจะแชร์และแบ่งปัน  ดิฉันเองก็ไม่ได้อยากเห็นแต่ลูก ๆ ของดิฉันมีความรู้เพียงอย่างเดียว อยากให้เค้าได้มีได้พบประสบการณ์ที่กว้างขวาง และกว้างไกลออกไป ทั้งความพร้อมทางความรู้และทางจิตใจ )ลูกของคุณแม่เป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส แสนแก่นซน ไม่ได้เรียบร้อยมาก พร้อมลุยได้ทุกสถานการณ์ พลังดีไม่มีหมด ความมีระเบียบใช้ได้ แต่เรื่องความมีน้ำใจก็ยังต้องฝึกฝนต่อให้รู้จักการให้ที่พอดีไม่มากไปไม่น้อยไป  สิ่งที่ต้องคอยบอกอยู่เรื่อย ๆคือการพูด เพราะบางทีพูดตรงพูดจริงเกินไปไม่ถูกกาละเทศะ ต้องคอยเบรคเหมือนกัน  ใครรู้วิธีสอนศิลปะการพูดให้เด็กเอามาแชร์ให้รู้บ้างก็จะดีไม่น้อยนะคะ  วันนี้คงมีเวลาได้คุยแค่ลูกคนโตเท่านั้น เดี๋ยวค่อยมาคุยกันใหม่นะคะ
                                                                                                                       แม่เฮี้ยง