เสร็จสิ้นกันไปแล้วสำหรับการสอบรอบ  MID TERM   ของปีนี้ สุดยอดการเตรียมตัวสอบของคุณลูก ๆ และบรรดาคุณแม่คุณพ่อจอมติวเตอร์สำหรับคุณลูกๆ เหน็ดเหนื่อยไปตาม  ๆกัน เพราะเป็นการสอบทวนทั้งหมดของเนื้อหาที่ได้เรียนผ่านมาตั้งแต่เปิดเทอม  สำหรับเอมิจัง ของป. 3 เนื้อหาบางวิชาเยอะ  บางวิชาก็ไม่เยอะมาก  ยังพอมีเวลาอ่านทันทวนกันได้หลายรอบ  แต่ว่าที่จะหนักหน่อยคือช่วงก่อนสอบที่มักจะมีการเก็บตกใบงาน งานค้าง หรือเคลียร์เนื้อหาที่ยังไม่ค่อยเข้าใจก่อนสอบ บางทีมีการบ้านจำนวนมาก ๆก่อนสอบ ทำให้นอนดึกกันหลายคืน เด็กเล็กอาจจะไม่ไหว เพราะบ้านอยู่กันไกล ๆทั้งนั้น     ความรับผิดชอบโดยตรงที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยได้คือเป็นคู่คิดว่า   ลูกยังอ่อนจุดไหนแล้วพยายามเติมเต็มตรงจุดนั้น ดีกว่าปล่อยให้มีจุดอ่อนแล้วปล่อยให้ไปทำข้อสอบที่จะออกมาถามซ้ำอีกในเรื่องเดียวกัน     เพราะถ้าเคยทำคะแนนได้ไม่ดีแล้วถ้าหากยังไม่เร่งรีบแก้ไข ก็อาจจะสายเกินกว่าจะกู้คะแนนดี ๆกลับคืนมาในรอบการสอบครั้งต่อไป

    หากว่าคุณลูกและคุณพ่อคุณแม่สนใจใส่ใจในการเรียนอย่างแท้จริงด้วยความตั้งใจว่า การมีพื้นฐานที่ดีในวิชาต่าง ๆถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความสนใจไม่ใช่เพื่อเกียรติบัตรอย่างเดียวเท่านั้น    แต่เพื่อปูรากฐานที่จะต่อยอดความรู้ต่อไปอย่างเข้มแข็งและมั่นคง  หากลูกยังไม่แม่น  ไม่แน่น หรือยังไม่เข้าใจสิ่งใดก็ขอให้รีบแก้ไขให้ความเข้าใจนั้นกระจ่างดีกว่าปล่อยให้ลูกผ่านไปแบบไม่รู้ เพราะพื้นฐานการเรียนของแต่ละชั้นปีจะเริ่มซับซ้อนยุ่งยากขึ้น  เนื้อหาของแต่ละวิชาไม่สามารถมาคาดเดากันได้ว่ามันจะเป็นเนือหาออกมาแบบไหนตามใจเราเหมือนเดา นิยาย หรือละคร  แต่เป็นการเรียนรู้ที่เหมือนกับการอ่านเนื้อเรื่องสักเล่มที่บอกแค่ใจความทั่วไปแต่มีปมให้ต้องคิดต้องอ่าน และสืบสวนต่อ มีเหตุ ที่มา ที่ไปของ แต่ละเรื่องราว ที่ผูกโยงต่อ ๆกัน   หากว่าลูกของเราไม่เข้าใจในความเกี่ยวโยงของเรื่องราวใด  ๆก็ตาม  เราในฐานะคนที่ใกล้ชิดลูกก็คงต้องมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือให้ลูกได้เติมเต็มความรู้ให้เท่าทันเพื่อน ๆเท่าที่ควรจะได้รับมา   เพื่อให้เขาตามทันเพื่อน ๆและเกาะกลุ่มกันต่อไป  

    สำหรับเด็กเก่ง ๆคงจะไม่มีปัญหา แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หรือเด็ก ๆที่ยังตามไม่ค่อยทัน อาจจะเหนื่อยหน่าย  ท้อแท้ และชินชา แต่ก็คงไม่ยากเกินกว่าที่จะดูแลให้ลูกเรียนรู้     และตามให้ทันเพื่อน ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้มันออกมารูปแบบใด     เมื่อช่วงวันสอบที่ผ่านมาดิฉันต้องหาเวลาไปติวกับลูกที่โรงเรียนอยู่ตลอดช่วง 3- 4 วันของการสอบ ได้ไปส่งลูกที่โรงเรียนแต่เช้า ปรากฎว่ามีผู้ปกครองหลายท่านที่นั่งกระจายตามโต๊ะใต้อาคารเรียนเพื่อติวข้อสอบให้กับลูก  ๆ ของตัวเอง ทั้งประถมและมัธยม    คุณแม่บางท่านมีลูกเรียน  2คนแต่คนละระดับชั้น ได้ยินคร่าว ๆว่า  ติวภาษาอังกฤษม. ต้นกับลูกชายคนโต สอนเรื่องการอ่านการแปลความหมาย  แล้วซักพัก หันมาถามลูกชายคนเล็กว่าอ่าน ภาษาญี่ปุ่น โอเค หรือยัง พร้อมไหมจะสอบภาษาญี่ปุ่นวันนี้ คำศัพท์ได้ไหม ทวนกับลูกอีกคนหนึ่งต่อ  จากนั้นก็กลับไปมองคนโตอีก (สุดยอดคุณแม่  และสุดยอดคุณลูกที่ตั้งใจฟังคุณแม่ติวโดยไม่มีอาการบ่นหรือเบื่อหน่ายใด ๆ น่ารักมาก ๆเลย)  มองไปอีกโต๊ะเป็นคุณแม่ ที่มีลูกอยู่ป. 1 กับลูกของผปค.ท่านอื่น นั่งอ่านหนังสือด้วยกัน สอนการบ้านอ่านภาษาอังกฤษกัน ก็ดูกระตือรือร้นดีเด็กตัวเล็ก  น่าจะ 5 ขวบกว่า ๆ ขยันจริง  ๆเชียว อดส่งยิ้มทักทายเป็นกำลังใจให้ไม่ได้ทั้งคุณแม่คุณลูก  เรียกได้ว่าเป็นการสอบค่อนข้างใหญ่ครั้งแรกสำหรับเด็ก ๆป. 1 กันเลยทีเดียว คงจะตื่นเต้นกันน่าดู

   การลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับคุณพ่อคุณแม่คือความเอาใจใส่ต่อลูก ๆ  ดิฉันเชื่อว่าเมื่อเราปลูกฝังความรับผิดชอบ และการมองเห็นความสำคัญของการศึกษาเป็นสิ่งที่ดี และสิ่งที่ลูกควรมีทักษะของการใฝ่เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา จะเป็นรากฐานที่ดีต่อไปในอนาคต  หากว่าวันหนึ่งเราไม่มีโอกาสได้ไปนั่งติวกับลูกอีกในภายภาคหน้า  ลูกคงจะตระหนักได้ว่าเค้ามีหน้าที่ความรับผิดชอบสำหรับตัวเองมากแค่ไหนในการเรียนให้จบตามเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ ด้วยตนเอง แม้นจะไม่มีคุณพ่อคุณแม่มานั่งหน้าแฉล้มเปิดหนังสืออ่านไปพร้อมกับลูกๆด้วยกันก็ตามที     ถึงตอนนั้นเค้าก็คงจะเก่งกว่าเราเป็นไหน ๆและเราก็คงจะเบาใจได้ว่า     เค้าจะยังเป็นเด็กดี ลูกที่ดี ศิษย์ที่ดี ตั้งใจเรียนรู้อยู่อย่างสม่ำเสมอไม่ออกนอกลู่นอกทางไปไหนๆที่เราไม่ต้องการจะให้เป็น 

    อย่างไรที่สุดคือกำลังใจค่ะ  การเรียนรู้ของเด็กทุกคนก็มีขอบเขตเฉพาะบุคคลเป็นสิ่งที่ดิฉันเข้าใจดี เราไม่สามารถเปลี่ยนตัวตนที่แท้จริงหรือสิ่งที่หยั่งรากลึกของลูกได้ แต่เราก็พอจะสร้างแรงบันดาลใจให้ได้ ด้วยการให้กำลังใจ และการชมเชย เมื่อลูกทำดี นะค่ะ ไม่ใช่ว่าได้คะแนนดี   แต่เป็นลักษณะของการพยายาม  การทำดีต่างหาก  หากว่าลูกตั้งใจอ่านหนังสือแล้ว ผลสอบ ยังได้ไม่ค่อยดีหรือยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ขอให้ใจเย็น ๆและมองที่การกระทำค่ะแล้วคุณผปค.จะได้ไม่เครียด   เพราะบททดสอบในชีวิตการเรียนของลูกยังมีอีกหลายด่าน  หากลูกเราตั้งใจทำแล้ว ผลได้อย่างไรก็ต้องยอมรับและปรับปรุงต่อๆไปเรื่อย ๆ  ให้กำลังใจลูกมากขึ้น ๆก็จะช่วยได้มากค่ะ

    เอมิเองก็เคยสอบได้คะแนนน้อย  ๆเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจะดีทุกครั้งเพราะโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ทุกอย่างมีเวลาของมันที่เหมาะสมอยู่ในทุก ๆเรื่อง  หากว่าเราไม่ท้อ เราก็จะผ่านพ้นอุปสรรคการเรียนรู้ไปได้ค่ะ  อย่างที่เคยเล่าให้ฟัง ลูกเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง งานที่ได้รับมอบหมายต้องทำใให้ดีที่สุด  ไม่ยอมนอนหากการบ้านไม่เสร็จ  ใบงานต้องละเอียด เรียบร้อย ตั้งใจทำ ชิ้นงานต้องทำอย่างดีที่สุดเท่าที่ฝีมือจะมีหรือจะทำได้ ทุกอย่างเต็มที่ให้ใจเต็มร้อย  แต่หากว่ามันไม่เป็นดั่งที่หวัง ย่อมมีเสียใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้จากลูกก็คือ  ความพยายามเท่านั้นที่ลูกมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ หากเค้าตั้งใจสุด ๆเรื่องใด เค้าจะไม่ยอมปล่อยมันเด็ดขาด  ไม่ท้อ และเรียกกำลังใจกลับคืนมาได้อย่างเร็วมาก  สิ่งที่เคยทำให้ลูกร้องไห้ในเรื่องที่โรงเรียนเรียกได้ว่ามีน้อยมาก  ดิฉันคิดว่าความเข้มแข็งและคิดบวกจะช่วยให้ลูกฟื้นจากความเศร้าต่าง ๆได้อย่างรวดเร็ว  และรู้จักชมเชยผู้อื่นทำให้เค้ามองสิ่งรอบตัวให้กว้างขึ้น  

    มีหลายครั้งที่ลูกชมเพื่อนคนอื่นว่า  มีเพื่อนผู้ชายในห้องเขียนลายมือสวยมาก  อาจารย์ก็ชมด้วย เลยอยากเขียนสวย ๆขึ้นมาบ้าง หรือ เพื่อนบางคนเก่งภาษาอังกฤษมาก ๆเลย  ลูกก็บอกว่าโชคดีจังมีเพื่อนเก่ง เค้าก็เลยรู้ว่า  Teacher  ต้องการถามอะไร   หรือ อย่างเพื่อนบางคนเก่งเลขมาก  หรือวิทย์สอบได้เต็ม   เอมิก็จะมาเล่าว่าดีจังมีเพื่อนเก่ง ๆมารวมตัวอยู่ในห้องนี้  มีตัวแทนไปแข่งขันทำอะไรกันบ้าง แล้วก็พร้อมจะเป็นกำลังใจให้ เพราะว่าเรายังไม่ได้เก่งถึงขั้นเทพอย่างเพื่อน ๆบางคน เก่งจริง ๆ   แต่สิ่งเดียวที่คิดว่าลูกยังไม่ค่อยชอบใจนักก็คือ  ความตั้งใจว่าอยากจะวาดรูปให้สวยกว่าเพื่อนผู้ชายในห้องที่เก่งที่สุดตอนนี้  เพราะเค้าคิดเข้าข้างตัวเองว่า ตัวเองวาดรูปเก่งที่สุดของฝ่ายเด็กผู้หญิง และตอนนี้คิดจะท้าประลองกับฝ่ายชายซะแล้ว (  ตามประสาความคิดของเด็ก ๆ ว่าเค้าก็มั่นใจในฝีมือการวาดรูป  ซึ่งตามความเป็นจริง แล้วความสามารถยังน้อยนิดนัก คิดเข้าข้างตัวเองไปหน่อยนะลูก)  แต่เมื่อลูก วางเป้าหมายแล้ว มีการมุ่งมั่นแล้ว เราก็คงจะต้องให้กำลังใจอย่างสร้างสรรค์กันต่อไป  เอ้า!  สู้ ๆนะจ๊ะ เอมิจังลูกลิงน้อยของแม่จ๊ะ  

       ว่าแล้วก็ต้องขอพาลูกเข้านอนก่อน พร้อมกับเจ้าหนอน(ดักแด้) พันธุ์อีรี่  ที่อาจารย์ประจำชั้นฝากให้เด็ก ๆเอากลับมาดูแลต่อช่วงวันหยุดนี้ ลูกขอเอาไปไว้ในห้องนอนด้วย  อาจารย์บอกว่าต้องคอยสังเกต และจับตาดูตลอดเวลา  (จากคำบอกเล่าของลูก อะไรมันจะขนาดนั้นจ๊ะ  นี่ถ้าย่อส่วน ตัวเองได้ เอมิก็คงจะย่อส่วนเข้าไปนอนกับน้องหนอนในกล่องกระจกแล้วล่ะมั้ง  น่ารักดีนะคะเวลาลูกเรียกว่า ขอนอนกับน้องหนอน   น้องหนอนอย่างงู้น  น้องหนอนอย่างงี้  อะไร ๆ ตอนนี้ก็น้องหนอน  ๆ ๆ แต่ว่า น้องหนอนเป็นดักแด้ไม่ดุกดิกแล้วต้องจับตาดูตลอดทำไมค่ะ  คุณลูก คุณแม่ไม่เข้าใจอ่ะค่ะ)  พรุ่งนี้สองสาวของดิฉันจะต้องไปเรียนศิลปะแล้ว เอมิคันไม้คันมือเต็มที  ไม่ได้ไปเรียนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคงจะคิดถึงคุณครูอ้อม คนสวยแสนใจดีแล้วล่ะค่ะ
หากมีเวลาจะมาเล่าเรื่องลูกต่อคราวหน้าค่ะ   ขอให้คะแนนสอบทุกๆ คนออกมาเป็นที่น่าพอใจนะค่ะ