องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์์

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์

พิพิธภัณฑ์วิทย์ฯ คลอง 5 รังสิต

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช)  National Science Museum (NSM)


องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า National Science Museum (NSM) ตั้งอยู่ที่ เทคโนธานี คลองห้า ปทุมธานี ที่นี่เป็นแหล่งความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้เราศึกษาและเข้าใจง่ายด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็ก นักเรียน นักศึกษา เมื่อมาที่นี่แล้วจะได้เปิดโลกทัศน์ในมุมมองเกี่ยวกับโลกวิทยาศาสตร์ เป็นบรรยากาศในการเรียนรู้แบบแปลกใหม่ สามารถทำการทดลอง และค้นพบหลักความเป็นจริงได้ด้วยตนเองซึ่งจะทำให้ทุกคนรู้สึกเพลิดเพลินและ สนุกสนานกับการเรียนรู้
 

เมื่อเดินเข้าไปภายในอาคาร ส่วนแรกจะ เป็นส่วนต้อนรับและแนะนำการเข้าชมก่อน ให้เราได้รู้จักกับนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกและนักวิทยาศาสตร์รุ่นบุกเบิกใน สาขาต่าง ๆ พร้อมรูปภาพและประวัติข้อมูล ผลงาน ของนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น และยังมีห้องอินเตอร์เน็ตให้เด็ก ๆ ได้ท่องโลกไซเบอร์อีกด้วย เดินเข้าไปด้านในเป็นส่วนนิทรรศการหมุนเวียน ซึ่งในระหว่างนี้มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับไดโนเสาร์ทีเร็กซ์ และไดโนเสาร์พันธุ์ที่ถูกขุดค้นพบซากกระดูกฟอสซิลในประเทศไทย ชื่องานว่า T.Rex named SUE & Thai Dinasaurs เขาจัดแสดงให้ชมตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน นี้ สิ่งที่เรียกความสนใจผู้เข้าชมได้มากที่สุดเห็นจะเป็น โครงกระดูกแบบเต็มตัวของที.เร็กซ์ ที่ชื่อว่า “ซู” ซึ่งมีความสูง 15 เมตร และหัวกะโหลกขนาด 1.5 เมตร พร้อมประวัติเรื่องราวการขุดค้นพบโครงกระดูกนี้ ชมวิดีโอสารคดี

แสดงขั้นตอนที่นักวิทยาศาสตร์สร้างภาพซีทีกะโหลกของซูอีกด้วย ยังได้พบกับหุ่นไดโนเสาร์ไทย เช่น สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส, ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่, ซิตตะโกซอรัส สัตยารักษ์กี, กินรีนิมัส และ คอมป์ซอกเนธัส เรียนรู้การมองเห็น การดมกลิ่น การเคลื่อนไหวขาหน้าของไดโนเสาร์ผ่านหุ่นจักรกลรูปไดโนเสาร์ ในนิทรรศการนี้ เด็ก ๆ ยังจะได้สนุกกับเกมส์การเรียนรู้ไดโนเสาร์ เช่น การสำรวจ ขุดค้น หล่อฟัน การศึกษาวิจัยฟอสซิล เป็นต้น

เดินออกมาด้านนอก เป็นโซนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เรียนรู้เรื่องระบบโซลาเซลส์ แสงและเงา เครื่องฉายภาพฟองสบู่ (Bubble Projector) ว่ามีหลักการทำงานอย่างไร

ชั้นที่สอง ของอาคาร สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของชั้นนี้คือ “ลูซี่” เป็นรูปปั้นมีหน้าตาคล้ายลิงซึ่งเขาจำลองมาจากซากดึกดำบรรพ์ที่ขุดพบใน เอธิโอเปีย มีปี พ.ศ. 2517 จัดอยู่ในตระกูลออสตราโลพิเทคุส อฟราเรนซิส ว่ากันว่า ลิงใหญ่ชนิดนี้ถือเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ ประทังชีวิตด้วยขอนไม้ ปีนป่ายเก่ง และยังมีส่วนรากฐานของวิทยาศาสตร์ ประวัติการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ วิสัยทัศน์ของนักวิทยาศาสตร์เอกของโลก และโลกที่เปราะบาง

ชั้นที่สาม เป็นวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ค้นพบและเรียนรู้ด้วยตนเองในฐานปฏิบัติการไฟฟ้า เรื่องราวของพลังงานความร้อน (Heat) สสารและโมเลกุล ความเสียดทาน (Friction) อำนาจแม่เหล็ก(Magnetism) คณิตศาสตร์ และพลังงาน

ชั้นที่สี่ เราจะได้เรียนรู้ว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่มีผลต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ อย่างไร รวมทั้งมีผลเกี่ยวกับประเทศไทยในทาง ลักษณะทางภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ ปรากฎการณ์เรือนกระจก ธรณีวิทยา นิเวศวิทยา การผลิตด้านการเกษตรและเทคโลโลยีการก่อสร้าง

ชั้นที่ห้า เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน การนำสิ่งของมา Recycle กลับมาใช้ใหม่ คุณภาพชีวิต เรียนรู้ร่างกายและสุขภาพ การคมนาคม สิ่งแวดล้อม บ้าน สำนักงาน และวิสัยทัศน์ ต่ออนาคต มีเครื่องบินจำลองให้เด็ก ๆ ได้ทดลองนั่งอีกด้วย





 

ส่วนชั้นที่หกนั้น เกี่ยวกับเทคโนโลยีภูมิปัญญาแบบไทย ๆ ในงานหัตถศิลป์ต่าง ๆ อาทิงานแกะสลัก เครื่องจักสาน โลหะ เครื่องปั้นดินเผา เส้นใยและสิ่งทอ

นอกจากนี้ ยังมีห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ (Science Lab) ซึ่งเปิดโอกาสให้สมาชิกที่มากันเป็นครอบครัว หรือกลุ่มเด็กนักเรียน ได้มาทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ด้วยตัวเอง อาทิ การทดลองทำช็อคโกแลต พร้อมกับเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่อยู่ใน “ช็อคโกแลต” ที่

เด็ก ๆ ชอบรับประทาน การทดลองเกี่ยวกับปฎิกิริยาทางเคมี เช่น การเปลี่ยนสี การเกิดฟอง

การเกิดควัน การฝึกใช้กล้องจุลทรรศน์ ที่เอาไว้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เราไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า เรียนรู้วิทยาศาสตร์ “ไอศกรีม” ว่ามีส่วนผสมของอะไรบ้าง ไอศกรีมนั้นแข็งตัวได้อย่างไรโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น หรือการทดลองสกัด DNA แบบง่าย ๆ รหัสพันธุกรรม พร้อมกับทราบถึงบทบาทที่สำคัญของ DNA การทดลองเหล่านี้ ถ้ามากันเป็นกลุ่มครอบครัว จะใช้เวลาประมาณ 45-1 ชั่วโมง ถ้าเป็นกลุ่มนักเรียน ประมาณ 24 - 50 คน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม โทรติดต่อสอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ฯ กันก่อนจะดีกว่า